ตำนานพระบรมธาตุเจดีย์ วัดศรีเกิด จากตำนานพระเจ้าเลียบโลก
กล่าวว่า พระพุทธเจ้าเสด็จไปสู่ทิศใต้ ทรงประทับนั่งอยู่ที่แห่งหนึ่ง มีลัวะสองคนเอามะม่วง ๒ ผลมาถวายพระพุทธเจ้า ลัวะทั้งหลายก็นำมะปราง มะขุน (ส้มซ่า) และข้าวซ้อมมืออันขาวงามมาถวายแก่พระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธองค์เสวยแล้ว พวกเขาก็เอาส้มป่อยและน้ำหอมถวาย พร้อมทั้งน้ำสำหรับสรงและน้ำสำหรับชำระล้างพระหัตถ์ พระพุทธองค์ก็ทรงสรงน้ำและสระพระเกศา ก็ประทับอยู่ทรงแสดงพระธรรมเทศนาสั่งสอนพวกลัวะทั้งหลายตลอด ๓ วัน ๓ คืน
แล้วทรงพยากรณ์ว่า “ต่อไปภายภาคหน้าคนทั้งหลายจะมาสร้างอารามขึ้น ณ สถานที่นี้เป็นอารามใหญ่จักปรากฏชื่อว่า “พิชอาราม” แล้วพระเจ้าอโศกราชก็ทูลขอพระเกศาธาตุอัญเชิญบรรจุไว้ในสถานที่นั้น (วัดหลวงศรีเกิด อ.เมือง จ.เชียงใหม่)
ประวัติวัดศรีเกิด วัดศรีเกิด หรือเรียกว่า วัดปิ๊ดจาราม หรือพัชราม วัดนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่มีชื่อปรากฏในโครงราศหริภุญชัย เมื่อประมาณปีพ.ศ.๒๓๔๓ ซึ่งสมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าอาจมีชื่อว่า วัดหลวงโพธิรุกขพิชชาราม เพราะปรากฏในศิลาจารึกคราวอัญเชิญพระเจ้าแข้งคมเข้ามาประดิษฐานในวิหาร ครั้งสมัยพระบรมราชาธิบดีกาวิละได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์เพราะวัดวาอารามต่างๆ ที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่นอกกำแพงเมือง เนื่องจากเป็นระยะที่พม่ายกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ และพระบรมราชาธิบดีกาวิละทรงจัดย้ายพระพุทธรูปพระเจ้าแข้งคมจากวัดป่าตาลน้อยมาประดิษฐานไว้ที่วัดศรีเกิด และสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณพ.ศ.๒๑๔๐ ต่อมาได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อปีพ.ศ.๒๔๗๘
ประวัติวัดศรีเกิด (ต่อ)
วัดศรีเกิด ตั้งอยู่กำแพงชั้นใน เป็นวัดโบราณแห่งหนึ่งในนครพิงค์ก่อนพญามังรายจะมาสร้างเวียงใหม่แห่งนี้ ตามปรากฏในคัมภีร์พื้นเมืองนครเชียงใหม่ว่า พญามังรายให้ข้าบริวารแผ้วถางป่างในบริเวณที่จะสร้างเวียง พบรูปกุมภัณฑ์เก่าแก่อยู่ในป่า (เชียงใหม่เป็นเมืองร้างมาแต่เดิม) ข้าบริวารบางหมู่จะทำลาย บางหมู่ก็นำเรื่องไปทูลพญามังราย แต่พญามังรายทรงห้ามไว้ แล้วจึงใช้อำมาตย์ท่านหนึ่งนำเครื่องบรรณาการไปถวายพญาลั้วะที่บนดอยอุชุปัพพัตตะ เพื่อถามวิธีบูชาผีกุมภัณฑ์ พญาลั้วะก็บอกวิธีปฏิบัติ หลังจากนั้นพญามังรายก็ทำตาม สำหรับบริเวณที่ตั้งของวัดศรีเกิดแห่งนี้เป็นวัดมาก่อนหรือไม่นั้นยังไม่พบหลักฐานหลังจากที่พญามังรายสร้างเวียงเสร็จแล้ว ก็ได้รับยกย่องเท่ากับว่าเป็นเมืองหลวง บรรดาเมืองต่างๆ ก็เกรงเดชานุภาพพากันนำเครื่องราชบรรณาการมาขอสวามิภักดิ์อันได้แก่ เมืองหงสาวดี เมืองอังวะ เมืองเชียงตุง เมืองเชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน เชียงของ เขลางค์ฯ ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกว่า แคว้นล้านนาไทย พญามังรายประทับอยู่เมืองนครพิงค์จนสวรรคต เมื่อปีกุน พ.ศ.๑๘๕๕ รวมพระชนมายุได้ ๗๒ ปี จากนั้นก็มีเชื้อพระวงศ์สืบสมบัติสันติวงศ์ดำรงต่อๆ กันมาดังนี้
พระเจ้าคราม พระเจ้าแสนภู พ่อขุนน้ำท่วม พระเจ้าคำฟู พระเจ้าผายู พระเจ้ากือนา พระเจ้าแสนเมืองมา พระเจ้าสามฝั่งแกน พระยาติโลกราช พระยอดเชียงรายเสวยราชตั้งแต่พ.ศ.๒๐๓๑ ปีมะแม ถึงพ.ศ.๒๐๓๙ พระเจ้าปนัดดาติโลกราช (พระเมืองแก้ว) เสวยราชตั้งแต่พ.ศ.๒๐๔๐ – ๒๐๖๙ ปีมะโรง ในระหว่างนี้มีนักกวีแต่งนิราศหริภุญชัยปรากฏชื่อวัดศรีเกิด ในบทที่ ๑๒ ว่า
ทุงยู สิริเกิดใกล้ ผาเกียร
สามสีอาวาสเจียร จิ่มไหว้
กุศลที่ทำเพียบ พบราช เดียวเอย
มิใช่จงห้องได้ แต่พื้นนรา สาดล
ตามที่ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร อธิบายว่า โครงนิราศหริภุญชัยแต่งขึ้นประมาณพ.ศ.๒๐๒๕ – ๒๐๖๐ เป็นเอกสารแสดงว่า วัดศรีเกิดมีอายุนานหลายร้อยปี แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้าง ในวัน เดือน ปีไหน และเมื่อไร
ซุ้มจระนำ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ทั้งสี่ทิศ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดศรีเกิด
จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ ลูกแก้วจักรพรรดิ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี
(กล่าวนะโม ๓ จบ) วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุโย เกศาธาตุโย อะระหันตา ธาตุโย เจติยัง คันทะกุฏิง จะตุละสี ติสสะหิสเส ธัมมักขันเธ สัพเพสัง ปาทะเจติยัง อะหังวันทามิ ธาตุโย วันทามิทุระโส อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ สิระสา ฯ
ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นพึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไปจนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตามกราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ
ที่อยู่: 92 ถนน ราชดำเนิน ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200