วัดพระธาตุดอยกู่ (ศรีวิชัย)
บ.แม่ดอกแดง ม.๑ ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
[พระบรมธาตุเจดีย์]
วัดพระธาตุดอยกู่ (ศรีวิชัย) ตั้งอยู่หมู่บ้านแม่ดอกแดง หมู่ที่ ๑ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ของชาวดอยสะเก็ด สร้างโดยเจ้าผู้ครองนครเชียงตุงองค์หนึ่ง ต่อมา พ.ศ.๒๔๗๔ ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ซึ่งได้รับอาราธนามาช่วยบูรณะซ่อมแซม โดยเฉพาะการสร้างองค์พระบรมธาตุเจดีย์ใช้เวลาเพียง ๑๕ วัน เท่านั้นก็แล้วเสร็จ จึงให้ชื่อว่า “พระธาตุศรีวิชัย” ต่อมา ปี พ.ศ.๒๕๓๙ มีการบูรณะพระธาตุศรีวิชัยใหม่โดยพระครูบาสิงโต กิตติโสภโณ – พระใบฏีกามานพ ชินวโส (เจ้าอาวาส) ผู้อุปถัมภ์ในการบูรณะ คุณจังฮง บริษัทอาคารสินแมชชินเนอรี่ จำกัด
ประวัติพระธาตุศรีวิชัย วัดพระธาตุดอยกู่ (ศรีวิชัย)
(แหล่งที่มา : ป้ายประวัติพระธาตุศรีวิชัย วัดพระธาตุดอยกู่ (ศรีวิชัย))
ตามที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสืบๆ กันมามีอยู่ว่า มีเจ้านครเชียงตุงประเทศพม่าองค์หนึ่ง ด้ำการเสี่ยงทายโดยการปล่อยโคมลม (โคมลอย) ในงานพิธีสำคัญและท่านได้เขียนข่าวสารติดโคมลอย หากมีผู้ใดพบเห็นหรือเก็บโคมลอยได้ให้แจ้งข่าวไปถึงท่าน โดยท่านมีรางวัลให้ และท่านก็ให้ข้าทาสบริวารออกติดตามหาข่าวคราวการตกของโคมลอยด้วย จนกระทั่งได้ทราบข่าวจากชาวบ้านว่า โคมลอยได้ไปตกที่ภูเขาลูกหนึ่ง ซึ่งเป็นภูเขาที่ไม่ติดกับภูเขาลูกอื่นๆ บริวารของท่านได้นำข่าวไปแจ้งให้แก่ท่านเจ้าเมืองเชียงตุง พอท่านทราบข่าวได้พาข้าทาสบริวารมาก่อสร้างวัดและพระเจดีย์ขึ้นหนึ่งองค์ โดยได้นำพระธาตุและสิ่งของที่มีค่า พร้อมกับโคมลอยบรรจุในองค์พระเจดีย์
ต่อมาในยุคสมัยของพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังองค์หนึ่ง คือ พระครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งเป็นนักบุญแห่งล้านนาไทย (ต๋นบุญ) ท่านครูบาได้รับนิมนต์จากศรัทธาชาวบ้านแม่ดอกแดงในสมัยนั้น ได้ทำบุญก่อสร้างบูรณะพระเจดีย์ โดยสร้างพระเจดีย์ใหม่ครอบ (ก๋วม) องค์พระเจดีย์เก่าในปี พ.ศ.๒๔๗๔ พร้อมศิษยานุศิษย์ และศรัทธาญาติโยมทั่วทุกสารทิศมีทั้งชาวเขา และชาวพื้นเมืองที่มีความเลื่อมใสในพระปฏิปทาและการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของท่าน ต่างก็มานอนค้างอ้างแรมช่วยกันก่อสร้างพระเจดีย์ร่วมกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นจำนวนหลายร้อยคนเป็นเวลา ๑๕ วัน ช่วยกันอย่างขยันขันแข็งไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย
ในสมัยนั้นถนนขึ้นวัดยังไม่มี ต่างก็ช่วยกันขนอิฐขนปูนขนทราย ขนน้ำขึ้นดอยอย่างเต็มอกเต็มใจ ตามที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่า ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นพระที่เอาจริงเอาจังต่อหน้าที่ เพียงแต่ชี้แนะให้ศรัทธาชาวบ้านทำ ศรัทธาชาวบ้านก็แย่งกันทำ เพื่อต้องการบุญจากท่าน โดยท่านจะเป็นผู้นำและท่านได้บอกกล่าวศรัทธาว่า ถ้าถึงวันเดือน ๘ เหนือ แรม ๘ ค่ำ (วันอัฐมีบูชา) ให้ทำพิธีสรงน้ำพระธาตุและให้ชื่อพระธาตุว่า พระธาตุศรีวิชัย ทุกๆ ปี พอถึงวันเดือน ๘ เหนือ แรม ๘ ค่ำ ศรัทธาชาวบ้านก็จะทำบุญสรงน้ำพระธาตุศรีวิชัยสืบทอดกันมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
(กล่าวนะโม ๓ จบ) วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุโย เกศาธาตุโย อะระหันตา ธาตุโย เจติยัง คันทะกุฏิง จะตุละสี ติสสะหิสเส ธัมมักขันเธ สัพเพสัง ปาทะเจติยัง อะหังวันทามิ ธาตุโย วันทามิทุระโส อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ สิระสา ฯ
ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อม บูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพานแม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์ และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ