อุโบสถของวัดป่าเชิงเลน
ไม่น่าเชื่อว่าย่านถนนจรัญสนิทวงศ์จะมีวัดที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการนั่งวิปัสสนาหลีกหนีความวุ่นวาย แถมยังมีความร่มรื่น ร่มเย็น เพราะถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์ วัดที่ฉันพูดถึงอยู่นี้ก็คือ “วัดป่าเชิงเลน” วัดป่าใจกลางกรุงเทพฯ นั่นเอง
บริเวณทางเดินเท้าเข้าสู่วัด
“วัดป่าเชิงเลน” แห่งนี้ตั้งอยู่สุดซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 ติดริมคลองชักพระ พื้นที่โดยรอบถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจี จึงทำให้ที่นี่สงบร่มเย็นมากๆ อีกทั้งพื้นที่ของวัดนั้นจะไม่สามารถนำรถเข้าไปได้ หากใครต้องการจะเข้าไปในวัดก็ต้องจอดรถไว้ด้านนอก แล้วเดินเท้าเข้าไปผ่านทางเดินริมคลองเล็กๆ ประมาณ 150 เมตร ก็จะถึงทางเข้าวัดที่มีก้อนหินจำลองก้อนใหญ่ติดป้ายชื่อวัดไว้ดูสงบเรียบง่าย
ก้อนหินจำลองขนาดใหญ่ด้านหน้าทางเข้า
“ศาลาการเปรียญ”
เมื่อฉันเดินผ่านก้อนหินก่อนนั้นเข้ามา ก็เหมือนหลุดจากสังคมเมืองที่วุ่นวายมาสู่วัดป่าที่เงียบสงบ เดินมาอีกสักหน่อยจะเห็น “ศาลาการเปรียญ” อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งภายในจะมี “พระพุทธสิริสัตตราช” เป็นพระประธานอยู่ด้านบน และยังมีรูปหล่อของหลวงปู่ครูบาอาจารย์ของที่วัดในอดีตด้วย
“พระพุทธสิริสัตตราช” (องค์ด้านหลัง)
ภายในอุโบสถ
ไม่ไกลกันนักจะเป็นที่ตั้งของ “อุโบสถ” ขนาดค่อนข้างเล็ก ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ ผนังทั้งสี่ด้านของอุโบสถเปิดโล่งรับลมเย็นๆ รอบๆ อุโบสถนี้ยังมี “เสมา” เก่าแก่ของวัดที่ขุดพบ และทางวัดก็ยังคงเหลือแนวอิฐเก่าที่เป็นฐานรากของอุโบสถหลังเก่าอยู่ด้วย
ใบเสมาเก่าที่ขุดค้นพบ
แนวอิฐเก่าที่เป็นฐานรากของโบสถ์หลังเก่า
บริเวณรอบวัดล้อมรอบด้วยคลอง
จากประวัติของวัดนี้ที่หลวงพี่รูปหนึ่งได้เล่าให้ฟังนั้นได้ความว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ ซึ่งจากการตรวจสอบอิฐและวิธีการก่อสร้างพบว่าเป็นวัดรูปแบบเดียวกับวัดที่สร้างในสมัยอยุธยา จึงสันนิษฐานว่าวัดนี้คงมีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี และถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างมาเนิ่นนาน เพราะถูกน้ำท่วมขังบ่อยจนทรุดโทรม เนื่องจากสถานที่ตั้งของวัดล้อมรอบไปด้วยคลอง

จนในปี 2532 พระอาจารย์อุทัย (ติ๊ก) ฌานุตฺตโม พระป่าสายอีสานศิษย์หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีได้ธุดงค์มาพบวัดร้างนี้โดยบังเอิญ โดยเห็นเป็นบึงกว้างใหญ่ กลางบึงเป็นต้นอ้อขึ้นสูงกว่าที่อื่น ใต้พงอ้อเป็นกองอิฐปะปนอยู่ ซึ่งเป็นซากโบสถ์นั่นเอง ท่านจึงได้บูรณะวัดนี้ขึ้นใหม่จนเสร็จสมบูรณ์ลงในปี 2533
พระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่วัด
ภายในอุโบสถนี้มีพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่วัด ซึ่งแต่เดิมมีพระพุทธรูปสามองค์ด้วยกัน แต่ถูกตัดเศียรไป และในขณะที่บูรณะวัดก็พบว่ามีคนนำเศียรพระห่อผ้าขาวมาวางทิ้งไว้ เมื่อลองประกอบดูก็พบว่าพอดีกับองค์พระที่มีอยู่ จึงได้บูรณะขึ้นใหม่ แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงองค์เดียวเท่านั้นเพราะอีกสององค์ที่เหลือทรุดโทรมมากแล้ว และด้านข้างมีรูปปั้น “หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี” ซึ่งเป็นพระป่าของทางภาคอีสานที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือของครูบาอาจารย์ที่วัดแห่งนี้ด้วย
“หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี”
”ศาลากลางน้ำ”
หลังจากกราบพระภายในอุโบสถแล้ว ฉันก็นั่งพักชมบรรยากาศภายในวัดอยู่สักครู่หนึ่ง และรู้สึกประทับใจกับความเงียบสงบของวัดแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากศาลาการเปรียญและอุโบสถแล้ว ในวัดยังมีมุมสงบอย่าง ”ศาลากลางน้ำ” ให้ผู้ที่มาหาความสงบได้นั่งวิปัสสนากัน แต่ที่วัดนี้จะไม่มีการมาปฏิบัติธรรมแบบค้างคืนสำหรับผู้หญิง แต่สามารถมานั่งปฏิบัติธรรมแบบไป-กลับได้
“กุฏิของพระสงฆ์”
ส่วน “กุฏิของพระสงฆ์” มีการจัดแยกส่วนกันอย่างชัดเจนเป็นระเบียบ ซึ่งปัจจุบันในวัดนี้มีพระอยู่เพียง 8 รูป เท่านั้นที่คอยดูแลวัดแห่งนี้ โดยกิจวัตรประจำวันจะเริ่มตั้งแต่ ตี 3 ของทุกวัน ฉันมื้อเดียว และจะต้องทำวัตรเย็นนั่งสมาธิเป็นประจำทุกวัน

สำหรับใครที่กำลังคิดว่าช่วงหลังวันออกพรรษานี้ จะไปทำบุญทอดกฐินที่ไหนดี ฉันขอแนะนำให้มาเที่ยวงานกฐินที่วัดป่าเชิงเลนแห่งนี้ ในวันที่ 8 ตุลาคม 60 อิ่มใจ อิ่มบุญ แถมยังได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ใจกลางเมืองด้วย

“วัดป่าเชิงเลน” ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 ริมคลองชักพระ แขวงคลองบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. การเดินทางจากด้านถนนจรัญสนิทวงศ์ ไม่ต้องขับรถเข้ามาในซอยจรัญฯ 37 ให้ขับเลยซอยไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน ขับรถตรงไปประมาณ 1.8 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายตรงสะพานเข้าถนนเอราวัณปาร์ค (ทางเข้าหมู่บ้านเศรษฐสิริ) ขับตรงไปอีกประมาณ 1 กม. จะเห็นป้ายบอกทางเข้าวัดป่าเชิงเลน  จอดรถตรงถนนอาราวัณปาร์ค เดินเข้าไปตามทางเดินประมาณ 150 เมตร จะถึงทางเข้าวัด สอบถามรายละเอียดโทร.0-2865-5645 ถึง 6ที่อยู่14 ถนน แก้วเงินทอง แขวง บางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170

Write a Review

Click to rate

การสมัครสมาชิกหมายถึงคุณยอมรับต่อ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งาน and our นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเว็บไซด์ของเราแล้ว